การโอเวอร์โหลดมีผลต่อประสิทธิภาพของมอเตอร์เหนี่ยวนำและอายุยืนอย่างไร

ฉันจำได้ว่าครั้งแรกที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับมอเตอร์เหนี่ยวนำมากเกินไป มันเหมือนกับการปลดล็อคความลับสู่การยืนยาวของมอเตอร์

การใช้มอเตอร์เหนี่ยวนำมากเกินไปนำไปสู่ความร้อนที่เพิ่มขึ้นประสิทธิภาพที่ลดลงการสึกหรอแบบเร่งความเร็วและอายุการใช้งานที่สั้นลง การสร้างความมั่นใจว่าการปรับขนาดมอเตอร์ที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้และรักษาประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้เมื่อเวลาผ่านไป

ผลกระทบของการโอเวอร์โหลดอาจดูบอบบางในตอนแรกเหมือนกับการเพิกเฉยต่อการรั่วไหลเล็กน้อยบนหลังคา - จนกระทั่งมันกลายเป็นน้ำท่วม ลองนึกภาพสิ่งนี้: คุณกำลังใช้โรงงานอุตสาหกรรมและทุกอย่างก็ฮัมเพลงอย่างราบรื่น แต่ทันใดนั้นมอเตอร์ตัวหนึ่งของคุณก็เริ่มร้อนเกินไปและทั้งเส้นก็หยุดชะงัก มันเกิดขึ้นกับฉันครั้งหนึ่งและเชื่อใจฉันความตื่นตระหนกเป็นเรื่องจริง

การโอเวอร์โหลดไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ มันเหมือนกับการขอให้มอเตอร์ของคุณวิ่งมาราธอนโดยไม่ต้องอุ่นเครื่อง - มันเร่งความเร็วในการสึกหรอและสามารถนำไปสู่ความล้มเหลวได้อย่างสมบูรณ์ จำเวลาที่ฉันเลือกใช้มอเตอร์ที่ถูกกว่าโดยไม่คำนึงถึงการปรับขนาดที่เหมาะสมหรือไม่? มันจบลงด้วยการซ่อมแซมการซ่อมแซมมากกว่าที่ฉันลงทุนในอุปกรณ์ที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น จำเป็นต่อการปรับสมดุลค่าใช้จ่ายด้วยคุณภาพเพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดและให้แน่ใจว่ามอเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างดีที่สุด นี่คือที่ที่การทำความเข้าใจกลไกของการโอเวอร์โหลดจ่ายออกทำให้คุณสามารถเลือกอย่างชาญฉลาดและรักษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

อะไรคือสัญญาณทั่วไปของมอเตอร์เกินพิกัด?

คุณเคยรู้สึกถึงความเครียดของมอเตอร์มากเกินไปหรือไม่? ฉันมีและมันไม่สนุก!

เมื่อมอเตอร์เกินพิกัดมันมักจะให้สัญญาณเช่นความร้อนมากเกินไปเสียงแปลก ๆ ลดลงและการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น การพบสิ่งเหล่านี้ก่อนสามารถช่วยให้คุณประหยัดจากการแก้ไขที่มีค่าใช้จ่ายสูง

เพิ่มการสร้างความร้อน

ฉันจำได้ว่าหนึ่งสัปดาห์ที่วุ่นวายที่โรงงานของฉันเมื่อฉันสังเกตเห็นว่ามอเตอร์กำลังร้อนกว่าปกติ มันเหมือนว่ามันเป็นไข้! ความร้อนพิเศษนี้สามารถนำไปสู่การสลายของฉนวนเมื่อเวลาผ่านไปซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องการหลีกเลี่ยงอย่างแน่นอน ด้วยการจับตาดูอุณหภูมิของมอเตอร์ฉันสามารถจับปัญหาได้ก่อนที่มันจะหมุนวนออกจากการควบคุม การตรวจสอบอุณหภูมิของมอเตอร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการระบุ ปัญหาความร้อนสูงเกินไปในช่วงต้น¹.

เสียงผิดปกติ

คุณเคยได้ยินมอเตอร์เริ่มสร้างเสียงฮัมเพลงแปลก ๆ หรือเสียงพึมพำหรือไม่? ฉันมีและมันก็เหมือนกับว่ามอเตอร์ของคุณกำลังพยายามพูดกับคุณบอกคุณว่ามันไม่สามารถจัดการกับโหลดได้ การเพิกเฉยต่อเสียงเหล่านี้อาจหมายถึงการเสี่ยงต่อปัญหาทางกลเพิ่มเติมซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการให้ความสนใจ เสียงเหล่านี้อาจบ่งบอกว่ามอเตอร์กำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับภาระและเพิกเฉยต่อพวกเขาอาจนำไปสู่เพิ่มเติม ปัญหาทางกล².

ประสิทธิภาพลดลง

ในระหว่างโครงการที่สำคัญฉันสังเกตเห็นว่ามอเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งของฉันไม่ได้ทำงานเท่ากัน ราวกับว่ามันสูญเสียพลังงานและความกระตือรือร้น ประสิทธิภาพที่ลดลงนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการโอเวอร์โหลด การตรวจสอบปกติช่วยให้ฉันเห็นสิ่งนี้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนที่เหลือของเครื่องจักรทำงานได้อย่างราบรื่น การตรวจสอบประสิทธิภาพเป็นประจำสามารถช่วยระบุสิ่งเหล่านี้ได้ ออกอย่างรวดเร็ว³.

การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น

หนึ่งเดือนบิลไฟฟ้าของเราพุ่งสูงขึ้นและฉันพบว่ามอเตอร์ที่บรรทุกเกินพิกัดคือการตำหนิ มันใช้พลังงานมากขึ้นโดยไม่ส่งผลผลิตมากขึ้น - พูดคุยเกี่ยวกับประสิทธิภาพ! การติดตามการใช้พลังงานเมื่อเวลาผ่านไปช่วยในการระบุรูปแบบดังกล่าว การเปรียบเทียบข้อมูลการใช้พลังงานเมื่อเวลาผ่านไปสามารถเปิดเผยรูปแบบที่บ่งบอกถึงการโอเวอร์โหลด

ความสำคัญของการปรับขนาดที่เหมาะสม

ฉันได้เรียนรู้ว่าการปรับขนาดมอเตอร์อย่างถูกต้องสำหรับการโหลดที่ตั้งใจไว้เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและอายุยืนที่สอดคล้องกันในขณะที่ลดความเสี่ยงของความร้อนสูงเกินไปและความล้มเหลว การวิเคราะห์โหลดอย่างละเอียดในระหว่าง กระบวนการเลือก⁴ ได้กลายเป็นสิ่งที่ต้องทำสำหรับฉันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้

ประสบการณ์เหล่านี้สอนให้ฉันรู้ถึงความสำคัญของการบำรุงรักษาเป็นประจำและเอาใจใส่สิ่งที่อุปกรณ์ของเราบอกเรา มันเหมือนกับว่าพวกเขามีภาษาของตัวเองและเข้าใจว่าสามารถประหยัดทั้งเวลาและเงิน!

สัญญาณ	ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ความร้อนมากเกินไป	ฉนวนกันความร้อน
เสียงผิดปกติ	สายพันธุ์กล
ประสิทธิภาพลดลง	การสูญเสียประสิทธิภาพ
การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น	ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น

การสร้างความร้อนมีผลต่อส่วนประกอบของมอเตอร์อย่างไร

เคยรู้สึกหงุดหงิดกับความร้อนสูงเกินไปในเวลาที่เลวร้ายที่สุดหรือไม่?

เมื่อมอเตอร์ร้อนเกินไปมันจะสูญเสียประสิทธิภาพเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและอายุการใช้งานจะสั้นลง ตลับลูกปืนและฉนวนกันความร้อนได้รับผลกระทบที่ยากที่สุดดังนั้นการจัดการความร้อนจึงเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างราบรื่นและยาวนานขึ้น

ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ

มันเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคยสำหรับฉัน - วันฤดูร้อนอันร้อนแรงมอเตอร์เริ่มแสดงขึ้นและมันกลับกลายเป็นว่าความร้อนส่วนเกินเป็นผู้ร้าย เมื่อมอเตอร์สร้างความร้อนมากเกินไปประสิทธิภาพของมันจะจิก สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความต้านทานไฟฟ้าในขดลวดทำให้พลังงานหายไป

ฉันจำได้ว่าฉนวนกันความร้อนลดลงเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากความร้อนสูงเกินไปทำให้ทุกอย่างมีประสิทธิภาพน้อยลง เพื่อแก้ไขปัญหานี้ฉันได้เรียนรู้ว่าการเพิ่มโซลูชันการระบายความร้อนเช่น อ่างล้างจานร้อน⁵ หรือระบบพัดลมสามารถช่วยได้จริงๆ

สวมใส่ส่วนประกอบ

การคิดย้อนกลับไปถึงวันก่อนหน้าของฉันที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์แบริ่งและชิ้นส่วนเครื่องจักรกลอื่น ๆ มักจะปวดหัวเสมอเมื่อมันมาถึงความเสียหายจากความร้อน ฉันจำได้ว่ามีเหตุการณ์หนึ่งที่อุณหภูมิสูงนำไปสู่การสลายตัวของน้ำมันหล่อลื่นซึ่งเพิ่มแรงเสียดทานและสึกหรออย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเวลาผ่านไปการสวมใส่นี้ก็ส่งผลต่อความล้มเหลวของส่วนประกอบ

ตารางด้านล่างสรุปผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนต่อส่วนประกอบของมอเตอร์:

ส่วนประกอบ	ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น	ผลที่ตามมา
ตลับลูกปืน	การสลายตัวของน้ำมันหล่อลื่น	แรงเสียดทานและการสึกหรอเพิ่มขึ้น
ขดลวด	ความเสียหายของฉนวน	ลดประสิทธิภาพ
โรเตอร์	การขยายตัวทางความร้อน	การเยื้องศูนย์หรือไม่สมดุล

ความสำคัญของการปรับขนาดมอเตอร์ที่เหมาะสม

ฉันได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่าการได้รับมอเตอร์ขนาดที่เหมาะสมสำหรับงานเป็นสิ่งสำคัญ การใช้มอเตอร์มากเกินไปไม่เพียง แต่สร้างความร้อนมากขึ้นเท่านั้น

ใช้ไฟล์ เครื่องมือวิเคราะห์โหลด⁶ ได้ช่วยให้ฉันค้นหาขนาดมอเตอร์ที่ถูกต้องสำหรับแอปพลิเคชันที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและอายุยืนที่ดีขึ้น

วิธีการจัดการความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฉันตระหนักว่าการจัดการความร้อนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษามอเตอร์ให้อยู่ในสภาพสูงสุด นี่คือกลยุทธ์บางอย่างที่ฉันพบว่ามีประสิทธิภาพ:

• การติดตั้งระบบทำความเย็นภายนอกเช่น เครื่องระบายความร้อนด้วยอากาศหรือของเหลว⁷ สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมาก
• การเลือกใช้มอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งสร้างความร้อนน้อยลงในระหว่างการทำงาน
• ติดตามการบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนประกอบทั้งหมดสามารถกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยการอยู่ด้านบนของการจัดการความร้อนฉันสามารถปรับปรุงทั้งอายุการใช้งานและประสิทธิภาพของส่วนประกอบมอเตอร์ได้อย่างมาก

การปรับขนาดมอเตอร์มีบทบาทอย่างไรในการป้องกันการโอเวอร์โหลด

ให้ฉันพาคุณเดินทางผ่านโลกแห่งมอเตอร์ซึ่งขนาดที่เหมาะสมอาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว

การปรับขนาดมอเตอร์ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการทำงานมากเกินไปโดยการทำให้มั่นใจว่ามอเตอร์ทำงานภายในความสามารถที่ออกแบบมาโดยหลีกเลี่ยงการสร้างความร้อนและการสูญเสียพลังงานมากเกินไป สิ่งนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพลดการสึกหรอและยืดอายุการใช้งานมอเตอร์

ทำความเข้าใจการปรับขนาดมอเตอร์

ฉันจำได้ว่าครั้งแรกที่ฉันตระหนักถึงความสำคัญของการปรับขนาดมอเตอร์ มันเหมือนกับการค้นพบชิ้นส่วนปริศนาที่หายไปซึ่งทำให้ทุกอย่างเข้าที่ การปรับขนาดมอเตอร์หมายถึงการจัดตำแหน่งกำลังไฟของมอเตอร์กับสิ่งที่โหลดต้องการ เมื่อมันถูกต้องทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่น แต่ถ้ามันเล็กเกินไปเช่นพยายามใส่กางเกงยีนส์คู่เก่าของคุณหลังจากวันหยุดมันก็ดิ้นรนสร้างความร้อนมากกว่าวันฤดูร้อนในชิลีและนั่นก็ไม่ดีเลย

ผลกระทบของการโอเวอร์โหลด

• การสร้างความร้อน: คุณเคยทิ้งอะไรไว้บนเตานานเกินไปหรือไม่? การโอเวอร์โหลดมอเตอร์นั้นคล้ายคลึงกัน มันร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจทำให้ฉนวนสลายเร็วกว่าความอดทนของฉันในการจราจร
• อายุขัยลดลง: ลองนึกภาพการวิ่งมาราธอนทุกวัน ในที่สุดแม้แต่สิ่งที่ดีที่สุดของเราก็จะเสื่อมสภาพ มอเตอร์ไม่แตกต่างกัน ความเครียดอย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตของพวกเขาสั้นลง
• การสูญเสียพลังงาน: เช่นเดียวกับการทิ้งไฟไว้ในห้องว่างเปล่าพลังงานของมอเตอร์ที่บรรทุกเกินพิกัดจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ

ผลที่ตามมา	ผล
ความร้อน	ฉนวนกันความร้อน
สวมใส่	อายุการใช้งานที่สั้นลง
พลังงาน	ต้นทุนที่สูงขึ้น

ประโยชน์ของการปรับขนาดมอเตอร์ที่เหมาะสม

• ประสิทธิภาพ: มอเตอร์ขนาดใหญ่ทำงานเหมือนความฝันอนุรักษ์พลังงานและลดต้นทุนลง
• อายุยืน: มันเหมือนกับการหารองเท้าที่สมบูรณ์แบบ ทุกอย่างใช้เวลานานขึ้นเมื่อมันถูกต้อง
• ต้นทุน-ประสิทธิผล: ด้วยการลดขยะให้น้อยที่สุดคุณไม่เพียง แต่ประหยัดเงิน แต่ยังทำส่วนของคุณเพื่อสิ่งแวดล้อม

ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับการปรับขนาดมอเตอร์

1. ประเมินข้อกำหนดการโหลด: คิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ มันเหมือนกับการบรรจุสำหรับการเดินทาง การบรรจุมากเกินไปทำให้สิ่งต่าง ๆ ยุ่งยาก
2. พิจารณาเงื่อนไขแอปพลิเคชัน: คำนึงถึงปัจจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพเช่นการตรวจสอบสภาพอากาศก่อนที่จะออกเดินทาง
3. ปรึกษามาตรฐานอุตสาหกรรม: ควรปฏิบัติตามแนวทางที่เชื่อถือได้เสมอ ฉันพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเช่น NEMA หรือ IEC เพื่อให้แน่ใจว่าฉันอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง

โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่ามอเตอร์ของฉันมีขนาดที่สมบูรณ์แบบป้องกันการทำงานมากเกินไปและเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิภาพ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อกำหนดการโหลด⁸ฉันหันไปหาแหล่งข้อมูลเฉพาะอุตสาหกรรมสำหรับเครื่องคิดเลขและแผนภูมิขนาดโดยละเอียด

โปรดจำไว้ว่าการปรับขนาดของมอเตอร์นั้นเป็นเหมือนการปรับสมดุลอาหารของคุณ: มันช่วยให้มั่นใจได้ว่าประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนานให้การดำเนินงานที่เชื่อถือได้และประหยัดค่าใช้จ่ายทุกครั้ง

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของการดำเนินงานมากเกินไปอย่างไร

ลองนึกภาพชิ้นส่วนที่คุณชื่นชอบของคุณดิ้นรนภายใต้แรงกดดันมากเกินไป นั่นคือสิ่งที่โอเวอร์โหลดทำ - ไม่เพียง แต่กับเครื่องจักร แต่ยังรวมถึงงบประมาณของคุณด้วย

การใช้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมากเกินไปโดยทำให้ความร้อนมากเกินไปลดอายุการใช้งานอายุสั้นและนำไปสู่ความไร้ประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างความมั่นใจว่าอุปกรณ์มีขนาดที่เหมาะสมคุณสามารถรักษาการดำเนินการที่ประหยัดต้นทุนและเชื่อถือได้

การสร้างความร้อนและผลกระทบ

ฉันจำเวลาที่ฉันผลักมอเตอร์หนักเกินไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวโดยคิดว่ามันสามารถจัดการได้อีกเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะรู้ความร้อนส่วนเกินที่เกิดขึ้นนำไปสู่การสลายของฉนวน เช่นนั้นฉันกำลังเผชิญกับค่าซ่อมหนัก การศึกษาระบุว่าระบบที่มีความร้อนสูงเกินไปอาจสูญเสียประสิทธิภาพสูงสุด 10% - ทำให้ฉันเชื่อมั่นซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อคุณดูเงินทุกครั้ง

ปัญหา	ผลกระทบด้านต้นทุน
ความร้อนส่วนเกิน	ค่าบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น
ความเสียหายของฉนวน	ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและทดแทนที่สูงขึ้น

อายุขัยลดลงของอุปกรณ์

การโอเวอร์โหลดอย่างต่อเนื่องเป็นเหมือนการวิ่งมาราธอนโดยไม่ต้องฝึกซ้อม - มันทำให้ชิ้นส่วนเร็วขึ้นเร็วกว่าที่คุณคาดไว้ ฉันได้เรียนรู้วิธีนี้อย่างหนักด้วยแบริ่งบางอย่างที่ออกมาก่อนเวลาอันควร การบำรุงรักษาตามปกติ⁹ กลายเป็นกลยุทธ์ไปสู่ปัญหาเหล่านี้ก่อนและหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากการพังทลายที่ไม่คาดคิด

ความไร้ประสิทธิภาพของพลังงาน

คุณเคยสังเกตไหมว่าอุปกรณ์ที่มีมากเกินไปดูเหมือนว่าจะกลืนไฟฟ้าได้อย่างไรเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้? ฉันมีมอเตอร์ที่ทำงานที่ความจุ 110% และมันก็เป็นพลังงานที่ไม่ดีเหมือนรถติดอยู่ในการจราจร ความไร้ประสิทธิภาพนั้น? มันแปลโดยตรงเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นเนื่องจากคุณใช้พลังงานมากขึ้นสำหรับผลลัพธ์เดียวกัน

ความเสี่ยงของความล้มเหลวอย่างสมบูรณ์

วันหนึ่งของระบบของเราที่ร้อนจัดและปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์เป็นหนึ่งในนั้น "ฉันควรจะเห็นการมานี้" ช่วงเวลา การโอเวอร์โหลดเป็นเวลานานไม่ได้เป็นเพียงความไม่สะดวกของคุณ มันสามารถนำทุกอย่างไปสู่การหยุดการบดซึ่งนำไปสู่การซ่อมแซมหรือทดแทนที่มีราคาแพง การดำเนินการ การจัดการโหลดที่เหมาะสม¹⁰ ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เพื่อให้ทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่น

ความสำคัญของการปรับขนาดที่เหมาะสม

การสร้างความมั่นใจว่าอุปกรณ์มีขนาดอย่างถูกต้องตามข้อกำหนดการโหลดไม่ใช่แค่แนวปฏิบัติที่ดี มันเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อทุกอย่างอยู่ในความสมดุลอุปกรณ์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเครียดซึ่งไม่จำเป็นซึ่งยืดอายุการใช้งานและลดความต้องการในการบำรุงรักษา

กลยุทธ์	ผลประโยชน์
ปรับขนาดให้ถูกต้อง	ประสิทธิภาพที่สอดคล้องกัน
การตรวจสอบเป็นประจำ	การตรวจหาโอเวอร์โหลดในระยะแรก
เครื่องมือตรวจสอบโหลด	การติดตามโหลดอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป

ทำความเข้าใจกับปัจจัยเหล่านี้และใช้มาตรการป้องกันเช่น การตรวจสอบเป็นประจำ¹¹ และการตรวจสอบโหลดสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการโอเวอร์โหลดได้อย่างมาก ด้วยการทำเช่นนั้นธุรกิจสามารถทำให้ทุกอย่างฮัมเพลงได้โดยไม่ต้องเผชิญกับความเครียดทางการเงินของการซ่อมแซมหรือทดแทนบ่อยครั้ง

บทสรุป

มอเตอร์เหนี่ยวนำมากเกินไปเพิ่มความร้อนลดประสิทธิภาพเร่งการสึกหรอและอายุการใช้งานที่สั้นลง การปรับขนาดมอเตอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและอายุยืน